DOTA 2 เกมแนวโมบา ยอดนิยม ที่ผู้เล่นใหม่อาจมองว่าเล่นยาก แต่ถ้าหากว่ารู้พื้นฐานการเล่น โดยศึกษาทำความเข้าใจให้ดีก่อน แน่นอนว่าเรื่องยากจะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ เลยล่ะ วันนี้เราจึงมี 8 เทคนิค วิธีเล่น DOTA 2 มาแนะนำมือใหม่ให้ได้ทราบกัน
แต่ก่อนอื่น ต้องรู้ก่อนว่า เกมนี้มันจะเล่นแบบแบ่งฝั่งๆ ละ 5 คน โดยแต่ละคนจะต้องทำการเลือกฮีโร่มาคนละ 1 ตัว รูปแบบเกมก็คือ ทำลายป้อม จนสามารถเข้าไปทำลายฐานของฝ่ายศัตรูได้ โดยเกมจะแบ่งเป็นฝั่ง Radiant กับฝั่ง Dire หากฝั่งไหนสามารถเข้าไปทำลายฐาน หรือ Ancient ได้ก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะ
8 เทคนิค สอนเล่น DOTA 2 ฉบับเข้าใจอย่างละเอียด
1. เลือกฮีโร่ที่เหมาะกับการเริ่มเล่น
ผู้ที่เริ่มเล่นเกม DOTA ควรเลือกฮีโร่ที่เล่นง่ายๆ โดยสามารถกดดูระดับความยากง่ายได้ที่ตัวเลือกระดับความยาก โดยกดเลือกตรงปุ่มแรกที่เป็นระดับความซับซ้อนต่ำ เพื่อแสดงเฉพาะฮีโร่ที่เล่นง่ายๆ ซึ่งเราจะขอแนะนำฮีโร่ที่เหมาะกับการเริ่มเล่น ดังนี้
Ogre Magi: ฮีโร่อสูรสองหัว โจมตีระยะประชิด ที่เล่นง่าย ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่มากๆ โดยผู้เล่นจะต้องเป็นตัวซัพพอร์ตของทีม คอยร่ายสกิล BLOODLUST (สกิล 3) ให้แก่เพื่อนร่วมทีมตอนเข้าไฟท์ หรือร่ายใส่ป้อมตอนศัตรูเข้าตีป้อมของฝั่งเรา นอกจากนี้ยังมีสกิล FIREBLAST ร่ายใส่ศัตรู เพื่อระเบิดเปลวเพลิงสตันศัตรู สกิล IGNITE ร่ายใส่ศัตรูเพื่อให้การเคลื่อนที่ของศัตรูช้าลง และสกิล MULTICAST ที่เป็นสกิลติดตัว สามารถร่ายสกิลติดต่อกันได้ โดยผู้เล่นไม่จำเป็นต้องทำการกดใช้เลย
Crystal Maiden: เจ้าหญิงน้ำแข็ง ตัวโจมตีระยะไกล มีสกิล CRYSTAL NOVA ที่จะทำให้ศัตรูในบริเวณเป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง สกิล FROSTBITE ที่เมื่อร่ายใส่ศัตรู จะเป็นการขังศัตรูไว้ในก้อนน้ำแข็ง สกิล ARCANE AURA ที่ผู้เล่นไม่ต้องกดใช้ เป็นสกิลที่จะช่วยเพิ่มอัตราการฟื้นฟูมานาให้เพื่อนๆ ในทีม และสกิลยืนร่าย FREEZING FIELD ที่ผู้เล่นจะต้องยืนร่ายแบบห้ามขยับไปไหน มันจะสร้างระเบิดน้ำแข็งรอบๆ ตัว ที่จะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง โดยต้นเกมเราสามารถออกไอเทมอย่าง GLIMMER CAPE เพื่อล่องหน 5 วินาที โดยกดใช้ก่อนหรือหลังการใช้สกิล
Luna: ตัวแคร์รี่ โจมตีระยะไกล? มีสกิล LUCENT BEAM สตันศัตรูระยะเวลาสั้นๆ สกิล MOON GLAIVES ที่ช่วยเพิ่มพลังกงจักรของเธอโดยไม่ต้องกดใช้ สกิล LUNAR BLESSING ที่จะเพิ่มดาเมจโจมตีโดยไม่ต้องกดใช้ และสกิล ECLIPSE ที่เมื่อกดใช้จะปล่อยลำแสงรอบๆ ตัว 10 วินาที ผู้เล่นสามารถออกคฑาฟ้า หรือ Aghanim’s scepter เพื่อให้ Luna สามารถเลือกพื้นที่เป้าหมายในการกดใช้สกิล ECLIPSE แทนการปล่อยลำแสงออกมารอบๆ ตัว
2. หัดเล่นด้วยโหมด Turbo
ผู้เล่นใหม่ที่อยากจะลงสนาม เราแนะนำให้ค่อยๆ ฝึกเล่นในโหมด Turbo ก่อน หัดกดใช้สกิล กดใช้ไอเทมให้คล่อง แล้วเมื่อเริ่มคุ้นชินต่อการกดใช้สกิล หรือกดใช้ไอเทมแล้ว ค่อยขยับไปเล่นโหมด All pick เพื่อเก็บชั่วโมงการเล่นในการก้าวเข้าสู่ระดับการลงแร้งค์ (Ranked All Pick)
3. รู้จักตำแหน่งการเล่นในทีมให้ดี
ตำแหน่งถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเลือกตัวด้วย อ่านรายละเอียดของฮีโร่ในเกมให้ละเอียดก่อน แล้วค่อยกดเลือก ไม่ใช่ว่าเลือกตัวซัพพอร์ตมา แต่ดันเป็นสายบวก อยากจะไปไฟท์ตั้งแต่ต้นเกมก็ไม่ถูก ซึ่งตำแหน่งในเกม DOTA2 จะมีอยู่ 5 ตำแหน่งด้วยกัน คือ
- Safelane จะเป็นตัว Carry ที่จะอยู่เพื่อใช้เวลาไปกับการฟาร์ม เช่น Specter, Phantom Assassin, Anti-Mage และ Juggernaut เป็นต้น
- Midlane โดยเป็นกลุ่มฮีโร่ที่ต้องการค่า Exp เป็นอย่างมาก มักจะเป็นฮีโร่ที่สามารถคอยช่วยเหลือเพื่อนได้อย่างรวดเร็ว เช่น Invoker, Zeus และ Queen Of Pain เป็นต้น
- Offlane กลุ่มฮีโร่ที่ต้องรับศึกในเลนที่เสียเปรียบ โดยจะเป็นฮีโร่กลุ่ม Tank เช่น Tidehunter หรือฮีโร่ที่มีสกิลในการหลบหนี เช่น Faceless Void
- Soft Support หรือ ตัวซัพพอร์ต 4 ที่ทำหน้าที่วิ่งไปช่วยสร้างความได้เปรียบให้เลนต่างๆ เช่น Spirit Breaker, Dark Willow, Rubick และ Shadow Shaman เป็นต้น
- Hard Support หรือ ตัวซัพพอร์ต 5 ที่จะอยู่ประจำ Safe Lane คอยเลี้ยง Carry ให้เกิด คอยปัก Ward เพื่อไม่ให้อีกฝั่งมารบกวนการฟาร์มของ Carry ฮีโร่กลุ่มนี้ เช่น Lion, Crystal Maiden, Oracle และ Ogre Magi เป็นต้น
4. ฝึกใช้ Courier ให้คล่อง
Courier หรือสัตว์ส่งของ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เล่นในการซื้อไอเทม นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ Courier เพื่อเปิดแผนที่หรือใช้เป็น Ward จำเป็นได้ด้วย เพราะระยะการมองเห็นค่อนข้างกว้าง โดยผู้เล่นจำเป็นต้องเรียนรู้คีย์ลัดคำสั่ง ดังนี้
- ปุ่ม Q: สั่ง Courier ไปเก็บไอเทมที่คลัง
- ปุ่ม W: สั่ง Courier ไปร้านค้าลับ
- ปุ่ม E: สั่ง Courier นำไอเทมไปใส่ในคลัง
- ปุ่ม D: สั่ง Courier เร่งความเร็วการเคลื่อนที่สูงสุดเป็นเวลา 6 วินาที
- ปุ่ม F: สั่ง Courier นำไอเทมมาส่ง
- ปุ่ม R: สร้างเกาะป้องกันรอบตัว Courier
5. หัด Lastshot และ Deny ครีปให้เป็น
สิ่งที่ผู้เล่นใหม่ควรทราบ คือ เราไม่จำเป็นต้องออโต้ครีป โดยการตีครีปไปเรื่อยๆ แต่เราต้องอาศัยจังหวะที่ครีปเลือดเหลือน้อยที่สุด เราจึงค่อยโจมตีครีป ในขณะเดียวกัน เราต้องคอย deny ครีปของฝั่งตัวเอง เพื่อไม่ให้ฝั่งศัตรูมีโอกาสได้ทอง
6. การใช้งาน Ward
Ward จะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ OBSERVER WARD ที่จะช่วยเปิดการมองเห็นพื้นที่ และ SENTRY WARD ที่จะช่วยให้มองเห็นการล่องหนของศัตรูที่อยู่ในรัศมี
7. การใช้ใบวาร์ป
ใบวาร์ป หรือ TOWN PORTAL SCROLL สามารถใช้เคลื่อนย้ายฮีโร่ไปยัง ป้อม, ฐาน หรือ Outpost ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการกดปุ่ม [T] ในการใช้ Teleport โดยจะใช้เวลายืนร่าย 3 วินาที โดยเราสามารถใช้วาร์ปไปช่วยเพื่อนบวก หรือวาร์ปหนีศัตรูได้
8. ใช้คู่มือแนะนำการออกไอเทม
ผู้เล่นใหม่ที่ยังออกของไม่เป็น แนะนำให้ใช้คู่มือแนะนำการออกของ ซึ่งมันจะช่วยบอกว่าเราควรอัพอะไร สกิลไหนในแต่ละ Lv. และมันจะมีไอเทมแนะนำต้นเกม ไอเทมหลัก ที่ตัวฮีโร่ที่เราเลือกเล่นควรออกมาใช้
และนี่ก็เป็น 8 เทคนิค วิธีเล่น DOTA 2 สำหรับผู้เล่นใหม่ ที่ทาง UG อยากจะแนะนำ รับรองเลยว่า คุณจะเข้าใจมากขึ้น และเล่นเกมได้อย่างดีขึ้นแน่นอน
📌 ติดตามข่าวสารได้ที่
Facebook Fanpage : @esportunderground
Facebook Group : Esport Underground
สนับสนุนโดย เว็บเกมออนไลน์ ได้เงินจริง